ต่างประเทศ

กว่างโจว, 4 ก.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (3 ก.ย.) เสี่ยวเผิง ฮุ่ยเทียน (XPeng Aeroht) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ได้เปิดตัวรถยนต์บินได้และทดสอบบินครั้งแรกในนครกว่างโจว มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีนรถยนต์บินได้แบบโมดูลาร์ของเสี่ยวเผิง ฮุ่ยเทียน ซึ่งมีขนาดกว้าง 2 เมตร และยาวราว 5.5 เมตร สามารถขับเคลื่อนบนภาคพื้นดินและทำการบินกลางอากาศ

โลกการศึกษาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อโรงเรียนเดวิด เกม คอลเลจ ในสหราชอาณาจักร เปิดตัวหลักสูตรสุดล้ำ “ห้องเรียนไร้ครู” เป็นแห่งแรกของประเทศ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเป็นผู้สอนแทนครูมนุษย์! หลักสูตรนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์ม AI ที่ปรับตัวเข้ากับความสามารถของแต่ละคน โดย AI จะวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน และออกแบบแผนการเรียนรู้ที่ตรงตามความต้องการของนักเรียนแต่ละคนแบบรายบุคคล ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองขาด และทบทวนสิ่งที่ถนัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมี AI เป็นผู้สอนหลัก แต่ก็ยังมี “โค้ชการเรียนรู้” คอยให้คำแนะนำและสนับสนุนนักเรียนอยู่เบื้องหลัง ทำให้นักเรียนไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ผู้อำนวยการโรงเรียนให้เหตุผลว่า AI สามารถวิเคราะห์นักเรียนได้ละเอียดและแม่นยำกว่ามนุษย์ และยังสามารถปรับตัวเข้ากับนักเรียนได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ AI ยังสามารถบอกสาเหตุที่นักเรียนไม่เข้าใจบทเรียนได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด นักเรียนส่วนใหญ่ตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่นี้ และเชื่อว่า AI จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ได้ดีขึ้น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน และมองว่า AI ยังไม่สามารถทดแทนความเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ การนำ AI เข้ามาใช้ในวงการศึกษาเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามอง แม้จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณที่มา https://www.tnnthailand.com/news/tech/175133/?fbclid=IwY2xjawFGA7xleHRuA2FlbQIxMQABHTGx7ViA1tKdkSSaKXZKgrLsZqIuos6PkbehNJpdV-IJdqDPxKlNq5Nz4g_aem_s5mqfvV_WdihBSuwlwKScQ

แคนเบอร์รา, 4 ก.ย. (ซินหัว) — วันพุธ (4 ก.ย.) คณะนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลออสเตรเลียที่ได้รับมอบหมายจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้วิเคราะห์และทบทวนงานวิจัยในอดีตเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสคลื่นวิทยุจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าโทรศัพท์มือถือไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับมะเร็งสมองกลุ่มนักวิจัยจากสำนักงานป้องกันรังสีและความปลอดภัยนิวเคลียร์แห่งออสเตรเลีย (ARPANSA) ได้วิเคราะห์ผลการศึกษากว่า 5,000 ฉบับที่จัดทำระหว่างปี 1994-2022 และพบว่าอัตราการเกิดเนื้องอกในสมองยังคงที่ แม้จะมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาเดียวกัน เคน คาริพิดิส หัวหน้าคณะทบทวนงานวิจัย แถลงว่าเมื่อปี 2013 องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ระบุให้การสัมผัสคลื่นวิทยุจัดอยู่ในหมวดสิ่งที่อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่อ้างอิงหลักฐานจากการศึกษาเชิงสังเกตในมนุษย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด “ส่วนการทบทวนอย่างเป็นระบบครั้งนี้ใช้ชุดข้อมูลอ้างอิงที่มีขนาดใหญ่มากกว่าชุดข้อมูลที่องค์กรฯ ตรวจสอบ และครอบคลุมการศึกษาที่มีเนื้อหาใหม่และครอบคลุมมากกว่า เราจึงมั่นใจว่าการสัมผัสคลื่นวิทยุจากเทคโนโลยีไร้สายไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์” งานวิจัยฉบับใหม่นี้ยังสรุปว่าไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานหรือปริมาณการใช้โทรศัพท์มือถือกับโรคมะเร็งนอกจากนั้น คาริพิดิสเสริมว่าผลวิจัยล่าสุดสอดคล้องกับการวิจัยของสำนักงานป้องกันรังสีฯ ก่อนหน้านี้ที่เผยให้เห็นว่าอุบัติการณ์โรคมะเร็งสมองไม่มีการเพิ่มขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา (แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนเที่ยวชมดอกซากุระในช่วงเทศกาลซากุระซิดนีย์ 2024 ที่สวนพฤกษศาสตร์ออเบิร์น ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย วันที่ 19 ส.ค. 2024)

ย่างกุ้ง, 2 ก.ย. (ซินหัว) — แม่ช้างวัย 21 ปีที่ปางช้างหวิ่นกะบ่อ ในภูมิภาคพะโคของเมียนมา ได้ให้กำเนิดลูกช้างฝาแฝดเพศผู้และเพศเมียเมื่อวันที่ 26 ส.ค. โดยการเกิดของลูกช้างฝาแฝดนั้นเป็นเรื่องที่พบได้ยาก และถือเป็นช้างแฝดที่ลืมตาดูโลกเป็นครั้งที่ 12 ในเมียนมานับตั้งแต่มีบันทึกเมื่อปี 1960.เมื่อวันอาทิตย์ (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ประจำปางช้างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่าแม่ช้างเพิร์ล แซนดาร์ ออกลูกช้างตัวแรกเป็นเพศเมีย ตัวที่สองเป็นเพศผู้ และทั้งสองเกิดห่างกันราว 4 นาที.รายงานระบุว่าช่วง 2 วันแรกลูกช้างฝาแฝดไม่สามารถดื่มนมจากแม่ได้ จึงต้องให้นมจากขวดแทน ส่วนในวันที่ 3 ลูกช้างฝาแฝดจึงเริ่มดื่มนมจากเต้าของแม่ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการและเป็นประโยชน์ต่อพวกมันมากกว่า.ปัจจุบันมีช้างทั้งหมด 9 เชือกในปางช้างหวิ่นกะบ่อ ซึ่งรวมถึงลูกช้างฝาแฝดดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ต่างตั้งใจที่จะดูแลช้างแฝดสองตัวนี้เป็นพิเศษเนื่องจากการเกิดช้างแฝดมักไม่เกิดขึ้นบ่อย (แฟ้มภาพซินหัว : ลูกช้างฝาแฝดเกิดใหม่ที่ปางช้างหวิ่นกะบ่อในภูมิภาคพะโคของเมียนมา วันที่ 1 ก.ย. 2024)

ซ่านโถว, 1 ก.ย. (ซินหัว) — เมืองซ่านโถว (ซัวเถา) มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน เปิดตัวรถกวาดถนนไร้คนขับ เอส1 (S1) ซึ่งผลิตโดยวีไรด์ (WeRide) สตาร์ตอัปด้านการขับขี่อัตโนมัติของจีน โดยนี่เป็นโครงการสุขาภิบาลบนนถนนสาธารณะแบบไร้มนุษย์ระดับแอล4 เชิงพาณิชย์โครงการแรกของเมืองซ่านโถว

วยอร์ก, 29 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (28 ส.ค.) สำนักข่าวเอพี (AP) รายงานว่าการผลิตที่โรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริหารงานร่วมกันโดยเจเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม (GM) และซัมซุง เอสดีไอ (Samsung SDI) ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเมื่อวันอังคาร (27 ส.ค.) บริษัททั้งสองได้สรุปข้อตกลงร่วมว่าจะร่วมกันบริหารจัดการโรงงานแห่งใหม่ในเมืองนิวคาร์ไลล์ รัฐอินเดียนา ทว่าจะเริ่มการผลิตในปี 2027 โดยก่อนหน้านี้มีการคาดเดาว่าโรงงานดังกล่าวจะเริ่มผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในปี 2026 จีเอ็มระบุว่าการเลื่อนกำหนดออกไปนี้ใช้เวลาไม่ถึง 1 ปี เนื่องจากสภาวะตลาดและรายละเอียดสัญญาที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยปัจจุบันการก่อสร้างโรงงานได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเอพีระบุว่ายอดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ยังคงเติบโต ทว่าโตในอัตราที่ช้าลง สืบเนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นรู้สึกกังวลเรื่องระยะทางและความสามารถการชาร์จไฟขณะเดินทาง ขณะที่ผู้นำตลาดอย่างเทสลา อิงค์ (Tesla Inc.) ได้ปรับลดราคาลง ส่งผลให้ผู้ผลิตรายอื่นต้องลดราคายานยนต์ไฟฟ้าตามไปด้วยMotorintelligence.com เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 7 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) รวมอยู่ที่ 599,134 คัน โดยยานยนต์ไฟฟ้าครองส่วนแบ่งตลาดยานยนต์ใหม่ของสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 7.6 ซึ่งใกล้เคียงกับส่วนแบ่งตลาดของปีที่ผ่านมา […]

กุ้ยหยาง, 30 ส.ค. (ซินหัว) — บรรยากาศภายในห้องปฏิบัติการหลักแห่งรัฐของคลังข้อมูลขนาดใหญ่สาธารณะที่มหาวิทยาลัยกุ้ยโจว ในนครกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนห้องปฏิบัติการแห่งนี้มีภารกิจการวิจัยหลักสามประการ ได้แก่ เทคโนโลยีการผสมผสานและการบูรณาการข้อมูลจากหลายแหล่ง การคุ้มครองความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคลังข้อมูลขนาดใหญ่สาธารณะ การบันทึกจัดเก็บข้อมูล และการกำกับดูแลระดับภูมิภาค(บันทึกภาพวันที่ 29 ส.ค. 2024)

เซินเจิ้น, 30 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (29 ส.ค.) หัวเหวย ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน เปิดเผยรายได้จากการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.3 เมื่อเทียบปีต่อปี รวมอยู่ที่ 4.17 แสนล้านหยวน (ราว 1.99 ล้านล้านบาท) ในช่วงครึ่งแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปีนี้ สวีจื๋อจวิน ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเหวย ระบุว่าบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 13.2 ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ผลการดำเนินงานโดยรวมเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ตัวเลขก่อนหน้านี้เผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 รายได้จากการจัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ 3.1 แสนล้านหยวน (ราว 1.48 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยมีอัตรากำไรสุทธิราวร้อยละ 15 (แฟ้มภาพซินหัว : บูธของหัวเหวยในงานมหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชาติจีน ครั้งที่ 4 ที่เมืองไห่โข่ว มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีน วันที่ 14 เม.ย. 2024)

ปารีส, 29 ส.ค. (ซินหัว) — ประมวลภาพบรรยากาศสมาชิกคณะผู้แทนของจีนเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส โดยเหล่าผู้แทนเคลื่อนขบวนอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมโบกสะบัดธงชาติสีแดงสดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม(บันทึกภาพวันที่ 28 ส.ค. 2024)

หลานโจว, 29 ส.ค. (ซินหัว) — ห้องสมุดเพื่อการวิจัยตุนหวงศึกษา ซึ่งเป็นฐานข้อมูลออนไลน์ที่รวบรวมผลการวิจัยระดับโลกและข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับตุนหวงศึกษา ได้เปิดให้บริการเมื่อวันอังคาร (27 ส.ค.) ที่ผ่านมาห้องสมุดออนไลน์นี้ครอบคลุมต้นฉบับจากชุดสะสมของสถาบันตุนหวง รูปภาพประวัติศาสตร์ อีบุคเกี่ยวกับตุนหวงศึกษาและผลการวิจัยของนักวิชาการจากในจีนและต่างประเทศ รวมถึงมีการบริการค้นหาและการแนะนำหนังสือใหม่ด้วยอนึ่ง ตุนหวงศึกษาเป็นสหวิทยาการที่มุ่งเน้นการวิจัย สำรวจ และอนุรักษ์โบราณวัตถุและเอกสารจากตุนหวงในมณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยมีหมู่ถ้ำหินแกะสลักโม่เกาเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นห้องสมุดเพื่อการวิจัยแห่งใหม่นี้ร่วมพัฒนาโดยสถาบันตุนหวง และชาวซิง กรุ๊ป จะให้การสนับสนุนทางวิชาการแก่นักวิชาการในการวิจัยเชิงระบบและสร้างผลการวิจัยที่มีอิทธิพลยิ่งขึ้นก่อนหน้านี้สถาบันตุนหวงก่อตั้งห้องสมุดทรัพยากร “ดิจิทัล ตุนหวง” และฐานข้อมูลต้นฉบับตุนหวง ซึ่งช่วยให้เกิดการแบ่งปันภาพถ่ายดิจิทัลความละเอียดสูงของหมู่ถ้ำหินแกะสลักโม่เกาและทรัพยากรดิจิทัลจากถ้ำห้องสมุด (Library Cave) (แฟ้มภาพซินหัว : คนใช้อุปกรณ์ความจริงเสมือนเพื่อชมหมู่ถ้ำหินแกะสลักโม่เกาในเมืองตุนหวง มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 22 ก.ค. 2024)

ไคโร, 28 ส.ค. (ซินหัว) — แถลงการณ์จากกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ เมื่อวันอังคาร (27 ส.ค.) ระบุว่าสถานเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำกรุงเฮกได้รับมอบโบราณวัตถุ 3 ชิ้นคืนจากทางการเนเธอร์แลนด์ และจะส่งกลับอียิปต์เร็วๆ นี้โบราณวัตถุดังกล่าวมาจากยุคปลายราชวงศ์ของอียิปต์โบราณ (747-332 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ได้แก่ รูปปั้นอุชับติ (ushabti) ที่ทำจากเครื่องเคลือบสีน้ำเงิน ส่วนหนึ่งของโลงศพไม้ที่ประดับด้วยภาพเทพีไอซิส และศีรษะมัมมี่ที่อยู่ในสภาพดีพร้อมซากฟันและเส้นผม“การสอบสวนพิสูจน์แล้วว่าโบราณวัตถุเหล่านี้ถูกลอบนำออกจากอียิปต์อย่างผิดกฎหมายหลังมีการขุดค้นอย่างลับๆ โดยไม่ได้มีที่มาจากพิพิธภัณฑ์ คลังจัดเก็บ หรือแหล่งโบราณคดีใดๆ” กระทรวงฯ ระบุแถลงการณ์เผยว่าอียิปต์ประสบความสำเร็จในการนำโบราณวัตถุที่ถูกลักลอบนำออกไปยังประเทศอื่นๆ กลับคืนมามากกว่า 30,000 ชิ้น นับตั้งแต่ปี 2014โมฮัมเหม็ด อิสมาอิล คาลิด เลขาธิการสภาโบราณวัตถุแห่งอียิปต์ (SCA) กล่าวว่าโบราณวัตถุทั้งสามชิ้นถูกค้นพบที่ร้านขายของเก่าในเนเธอร์แลนด์ จากนั้นทางการเนเธอร์แลนด์และอียิปต์ได้ดำเนินการสอบสวนที่จำเป็น และพบว่าโบราณวัตถุเหล่านี้ถูกลักลอบนำออกมาจากอียิปต์อย่างผิดกฎหมายคาลิดชื่นชมความร่วมมือระหว่างอียิปต์และเนเธอร์แลนด์ในการปราบปรามการค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและการลักลอบขนย้ายโบราณวัตถุอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากมรดกทางวัฒนธรรมถือเป็นมรดกร่วมกันของมนุษยชาติทั้งหมดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 อียิปต์ได้กู้คืนรูปปั้นนักบวชนีคอว์ พทาห์ (Nikaw-Ptah) จากยุคอาณาจักรเก่า (Old Kingdom) ที่มีอายุเก่าแก่ 4,000 ปีกลับมาจากเนเธอร์แลนด์ ภาพจากกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ : ศีรษะมัมมี่สภาพดีพร้อมซากฟันและเส้นผมที่อียิปต์รับคืนจากทางการเนเธอร์แลนด์) (ภาพจากกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ : […]

เวียงจันทน์, 28 ส.ค. (ซินหัว) — ธนาคารกลางลาว (BOL) และกลุ่มธนาคารเชิงพาณิชย์ได้ร่วมกันเปิดตัวการทดลองระบบตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มลาว ฟอเร็กซ์ เอ็กซ์เชนจ์ (LFX) เพื่อบูรณาการและรวมศูนย์ระบบการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศเมื่อวันอังคาร (27 ส.ค.) รายงานจากธนาคารฯ ระบุว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้มุ่งลดความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานสกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะการใช้สกุลเงินต่างประเทศเพื่อชำระสินค้านำเข้าและบริการต่างๆ รวมถึงใช้ชำระหนี้สิน โดยจะเอื้อให้บุคคลและองค์กรสามารถทำการซื้อขายด้วยสกุลเงินต่างประเทศได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบได้ผ่านการใช้ข้อมูลที่จัดเก็บระหว่างการทำธุรกรรมแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเอื้อให้การซื้อ จำหน่าย และแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสะดวกสบาย รวดเร็ว และโปร่งใสสำหรับทุกคนโดยมีความเสี่ยงที่จำกัด อีกทั้งเอื้อต่อการซื้อ จำหน่าย และแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ 3 ประเภท ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ ไทยบาท และหยวนของจีนรายงานระบุว่าระบบดังกล่าวได้เริ่มการให้บริการเบื้องต้นเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ผ่านแอปพลิเคชันแอลเอฟเอ็กซ์ของธนาคารเชิงพาณิชย์บางแห่ง โดยปัจจุบันธนาคารอื่นๆ ที่เข้าร่วมกำลังมุ่งจัดการระบบภายในให้เสร็จสิ้นเพื่อเชื่อมต่อกับระบบใหม่นี้ และคาดว่าจะให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคมนี้ แฟ้มภาพซินหัว : ผู้โดยสารที่สถานีรถไฟเวียงจันทน์ของทางรถไฟจีน-ลาวในนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว วันที่ 13 เม.ย. 2024)