เตรียมเปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพื้นที่สงวนชีวมณฑลเชียงดาว หลังยืนยันไฟป่าลดลง

อธิบดีอุทยานฯ เตรียมเปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพื้นที่สงวนชีวมณฑลเชียงดาว หลังชุมชนและท้องถิ่นเสนอมาตรการป้องกันไฟป่า ยืนยันไฟป่าลดลงมากแน่นอน

(10 สิงหาคม 2567) ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประกาศปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2567 เป็นต้นมา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อความสมบูรณ์ และความหลากหลาย ด้านทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่สงวนชีวมณฑล โดยห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โดยมิได้รับอนุญาต ยกเว้นผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำกิน ที่ได้มีการสำรวจการถือครองที่ดินไว้ตามมาตรา 121 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาการลักลอบเผาป่า การบุกรุกพื้นที่ป่า การล่าสัตว์ป่า ตลอดจนการจัดระเบียบที่พัก โฮมสเตย์ และการควบคุมการเข้าออกอย่างเหมาะสม เพื่อให้สภาพธรรมชาติได้ฟื้นฟูระบบนิเวศ และฟื้นตัวจากความเสียหาย นั้น

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) โดยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ได้มีการประชุมหารือร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง นำโดยนายกฤตพล รชตเมธานนท์ นายอำเภอเชียงดาว นายขวัญชัย เนื่องจำนงค์ นายอำเภอเวียงแหง ร่วมด้วยคณะกรรมการที่ปรึกษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว (PAC) และผู้นำท้องที่ท้องถิ่น เข้าร่วมเวทีเสวนาและลงนามในบันทึกความร่วมมือ การบริหารจัดการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวสู่ความยั่งยืน ณ ห้องประชุมอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว กับ อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง เทศบาลแม่นะ องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองแหง ชุมชนบ้านป่าเกี๊ยะ ชุมชนบ้านนาเลาใหม่ ชุมชนบ้านเลาวู ผู้จัดการที่พักผู้ศึกษาธรรมชาติ และภาคประชาชน โดยมีข้อสรุป ดังนี้

  1. ทุกฝ่ายเห็นชอบข้อตกลงร่วมกันกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติ 3 เรื่อง ได้แก่ การจัดการไฟป่า,การจัดการพื้นที่บุกรุกใหม่ หลังปีพ.ศ. 2557 และการจัดระเบียบที่พักผู้ศึกษาธรรมชาติ
  2. การจัดการไฟป่า ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการป้องกันไฟป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งราษฎรที่มีแปลงที่ดินทำกินติดป่า ให้มีการทำแนวกันไฟทุกราย ผู้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการต้องได้รับโทษตามกฎระเบียบชุมชน หากเกิดไฟป่าลุกลามเข้าสู่พื้นที่ป่าต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  3. การจัดการพื้นที่บุกรุกหลังปี พ.ศ. 2557 ชุมชนกับเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบจัดให้มีมาตรการแนวทางในการคืนพื้นที่ และฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม ผู้ไม่ปฎิบัติตามต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  4. การจัดระเบียบที่พักผู้ศึกษาธรรมชาติ ในระยะเร่งด่วนทุกฝ่ายเห็นชอบไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนรายของผู้จัดหาที่พักและจำนวนบ้านพัก จนกว่าจะมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
    ซึ่งทุกฝ่ายได้ให้ความเห็นชอบและร่วมกันลงนามในบันทึกความร่วมมือดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ใช้มาตรการเข้มงวดขั้นสูงสุด โดยการประกาศปิดพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เกิดสถานการณ์ไฟป่าที่เข้าขั้นวิกฤต อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการลักลอบจุดไฟเผาป่า ปัญหาที่พักโฮมสเตย์ที่เรื้อรังสืบเนื่องกันมา ตลอดจนปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งเกิดขึ้นหลังปีพ.ศ 2557 ส่งผลให้ทุกฝ่ายมีความตื่นตัวที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้ง 3 กรณี โดยมีข้อกังวลสำหรับกลุ่มคนเพียงบางกลุ่มที่ยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด อย่างไรก็ตามเมื่อทุกฝ่ายได้จัดทำบันทึกข้อตกลงและมีความเห็นสอดคล้องกันที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนการใช้มาตรการทางสังคม และมาตรการทางกฎหมายเพื่อลงโทษกับผู้ที่ฝ่าฝืน ซึ่งจะก่อให้เกิดกติกาของสังคมร่วมกัน ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ หากชุมชนและท้องถิ่นสามารถเสนอมาตรการป้องกันไฟป่า การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน การจัดระเบียบโฮมสเตย์ เป็นที่ยุติแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่สงวนชีวมณฑลเชียงดาว แห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น