เมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านสบสา ม.5 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของนายโสภณ ปันยอด โดยทราบมาว่ามีการกล่าวถึงเด็กผู้หญิงรายหนึ่งคือ ด.ญ.กฤติพร หมื่นสาย อายุ 14 ปี หรือน้องไอติม ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.2 รร.เชียงคำวิทยาคมที่ใช้เวลาหลังเลิกเรียนและเวลาว่างเสาร์ – อาทิตย์ตามครอบครัวไปรับเหมางานเกี่ยวกับงานศพทั้งในเรื่องของการเตรียมปราสาทศพ การรับศพออกมาโรงพยาบาลรวมทั้งการทำพิธีเตรียมงานในฌาปนกิจหากมีการจ้างงานเข้ามา ทำให้ผู้พบเห็นหลายคนรู้สึกแปลกใจเพราะปกติแล้วงานแบบนี้นั้นจะเห็นแต่วัยผู้ใหญ่ซึ่งมีแต่ผู้ชายที่จะรับงานแบบนี้ แต่ครอบครัวนี้กลับส่งเสริมให้ลูกสาวได้ช่วยงานจนสร้างความฮือฮานับไม่น้อย
น.ส.ลักขณา หมื่นสาย แม่ของน้องไอติม ได้เล่าว่า ครอบครัวของตนเองได้ทำเกี่ยวกับรับเหมางานศพตามพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งการสร้างสิ่งของที่จำเป็นในงานศพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง ปราสาทบรรจุศพรวมทั้งการรับผู้เสียชีวิตออกจากโรงพยาบาลมากกว่า 7 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ตนเองได้ทำงานกับสามีและทีมงานเพียงไม่กี่คนจนกระทั่งเมื่อน้องไอติมเรียนอยู่ชั้น ป.5 ได้เกิดความสนใจในเรื่องการสร้างปราสาทบรรจุศพเพราะตอนน้องเด็ก ๆ ชอบมานั่งดูตนเองกับสามีทำงานจนน้องเอ่ยว่าของลองทำได้ไหม โดยตนเองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ลูกสาวอยากมาลองทำงานแบบนี้เพราะปกติแล้วเด็กหญิงส่วนใหญ่จะไม่ชอบงานแบบนี้ ทั้งนี้ตนจึงได้ให้ลูกสาวลองทำตั้งแต่การติดแผ่นเงิน – แผ่นทองรอบ ๆ ปราสาทจนไปถึงการเริ่มช่วยติดตั้งไฟในงานซึ่งเห็นว่าน้องไอติมมีความสนใจเป็นอย่างมากจึงได้ชวนไปออกงานและก็สามารถทำได้ดีอีกด้วย โดยหลังจากที่จบงานนั้นตนเองจะแบ่งค่าขนมให้ครั้งละ 300 บาทต่อ 1 งานซึ่งน้องไอติมก็เก็บหอมรอมริบเป็นอย่างดี โดยบางครั้งการจะซื้ออะไรสักอย่างตนและสามีแทบไม่ได้เป็นห่วงเลยเพราะทุกครั้งก่อนที่จะซื้อน้องจะถามตนอยู่เสมอถึงความจำเป็นในการซื้อสิ่งของนั้น ๆ ด้วย ทำให้เวลานี้น้องไอติมได้มีวิชาติดตัวไปอีก 1 บทเรียนที่ตนและสามีภูมิใจเป็นอย่างมากเช่นกัน
ด้านด.ญ.กฤติพร หรือ น้องไอติมเปิดเผยว่า แรกเริ่มนั้นตนเองได้มานั่งดูพ่อทำงานจนเกิดความสนใจและอยากจะลองทำบ้างโดยหลังจากนั้นก็ได้ทำมาเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเรียนรู้การตกแต่งปราสาทบรรจุศพให้สวยงาม ทั้งนี้การมาทำงานนี้ตนเองทำมาได้ 2 – 3 ปีแล้วจนเวลานี้เก็บเงินเองได้เยอะและสามารถเปิดธุรกิจต่อยอดให้กับครอบครัวได้คืองานติดตั้งไฟประดับ โดยตนเองจะเรียนรู้จากผู้เป็นพ่อและทางทีมงานที่พ่อของตนไปร่วมงานจนสามารถเอามาประยุกต์และดัดแปลงให้สวยงามได้ ส่วนในเรื่องเวลาไปป่าสุสานช่วงพิธีฌาปนกิจนั้นหากจะถามว่าตนเองกลังผีหรือไม่ก็ต้องตอบไปว่ากลัวเป็นธรรมดา
อีกด้านนายโสภณ กล่าวเสริมว่า ตนรู้สึกภูมิใจที่ลูกสาวอายุเพียง 14 ปีหันมาชอบงานแบบนี้เพราะโดยปกติแล้วเด็กผู้หญิงแทบจะไม่มีใครสนใจหรือกลัวงานแบบนี้ด้วยซ้ำ ทั้งนี้ตนมองว่าอนาคตก็อยากให้ลูกสาวสืบสานวิชาของตนไปเรื่อย ๆ ให้เหมือนกับตนที่เคยสืบทอดจากรุ่นพ่อ รุ่นปู่มาโดยอาชีพแบบนี้ก็ถือว่าเป็นอาชีพสุจริตอีกอาชีพหนึ่งและตนได้สอนลูกเสมอว่างานแบบนี้ที่ทำมาแม้จะไม่ค่อยมีใครกล้าทำแต่ก็เป็นงานที่ภูมิใจเพราะการออกงานครั้งหนึ่งชาวบ้านจะได้เห็นความสวยงามของทีมผู้รับเหมางานศพว่าจะจัดสวยงามออกมาเพียงใดด้วย แม้กระทั่งการจัดดอกไม้ตามงานศพลูกสาวก็จัดได้ดีโดยแทบจะไม่มีใครคอยบอกกล่าวเลยด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น